Virtual Organization หมายถึง องค์กรที่ดำเนินงานและพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอันทรงคุณค่า โดยมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากองค์กรที่มีสถานที่ทำงานและทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้อย่างจำกัด ใน Virtual Organization สมาชิกขององค์กรไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายไปยังสถานที่ทำงานเดียวกัน แต่สามารถทำงานร่วมกันได้ผ่านระบบเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
Virtual Organization จะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อรวมสมาชิกที่มีทักษะและความชำนาญที่แตกต่างกันมาร่วมกันทำงานในโครงการหรือกิจกรรมที่เฉพาะเจาะจง การทำงานแบบเสมือนจริงใน Virtual Organization มีการใช้เครื่องมือและแอปพลิเคชันออนไลน์เช่นอีเมล์ โปรแกรมการประชุมออนไลน์ เครื่องมือแชท และแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันอื่น ๆ เพื่อสื่อสารและแบ่งปันข้อมูลในการทำงานร่วมกัน
Virtual Organization สามารถเป็นองค์กรที่มีสมาชิกที่กระจายตัวทั้งในระดับภูมิภาค ทั้งในระดับชาติหรือระดับสากล โดยสามารถเชื่อมต่อสมาชิกทั้งหมดเข้าด้วยกันผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นกลุ่มๆ หรือทีมๆ ตามโครง
การหรืองานที่กำหนด การใช้ Virtual Organization สามารถช่วยลดต้นทุนในด้านพื้นที่ทำงานและอุปกรณ์ และสามารถสร้างโอกาสในการทำงานร่วมกับคนที่อยู่ห่างไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตัวอย่างบริษัทที่ใช้รูปแบบ Virtual Organization
มีบริษัทหลายแห่งที่ใช้รูปแบบ Virtual Organization เพื่อให้สมาชิกทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างบริษัทที่ใช้รูปแบบนี้ได้แก่ :
- Automattic : เป็นบริษัทที่พัฒนาและดูแลเว็บบล็อกสำคัญอย่าง WordPress.com และเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง บริษัทนี้มีทีมงานที่กระจายตัวทั่วโลกและทำงานแบบรีโมท สมาชิกทำงานจากที่อยู่ที่ต่างกัน และใช้เทคโนโลยีออนไลน์เช่นอีเมล์ การประชุมออนไลน์ และเครื่องมือการสื่อสารอื่น ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลในการทำงานร่วมกัน
- GitLab : เป็นบริษัทที่พัฒนาและดูแลระบบจัดการโค้ดและการพัฒนาซอฟต์แวร์ GitLab ทางบริษัทมุ่งเน้นการทำงานแบบรีโมทและให้สมาชิกทำงานจากที่ทำงานที่ต้องการ สมาชิกใช้เครื่องมือออนไลน์เช่นแพลตฟอร์มการจัดการโค้ด การแชท และการสร้างเอกสารร่วมกันเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Zapier : เป็นบริษัทที่ให้บริการแพลตฟอร์มการสร้างการเชื่อมต่ออัตโนมัติระหว่างแอปพลิเคชันต่าง ๆ บริษัทนี้มีทีมงานที่กระจายตัวทั่วโลกและใช้รูป
แบบการทำงานแบบรีโมท สมาชิกสามารถทำงานจากที่ทำงานที่ต้องการ และใช้เครื่องมือการสื่อสารและการแชทออนไลน์เพื่อการประสานงานและการแลกเปลี่ยนข้อมูล
เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยของบริษัทที่ใช้รูปแบบ Virtual Organization องค์กรอื่น ๆ อาจมีรูปแบบและวิธีการทำงานที่แตกต่างกันออกไป ตามความเหมาะสมและลักษณะของกิจการนั้น ๆ
วิธีการนำ Virtual Organization มาใช้ในธุรกิจ
การนำ Virtual Organization มาใช้ในธุรกิจสามารถมีขั้นตอนดังนี้:
- กำหนดวัตถุประสงค์ : กำหนดวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ Virtual Organization เป็นไปตามธุรกิจของคุณ เช่น เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน, ลดต้นทุนในด้านสถานที่และอุปกรณ์, หรือเพิ่มโอกาสในการทำงานร่วมกับผู้ร่วมงานที่อยู่ห่างไกล
- เลือกเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่เหมาะสม : เลือกเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่สอดคล้องกับการทำงานและความต้องการของธุรกิจของคุณ เช่น แพลตฟอร์มการสื่อสารออนไลน์ การจัดการโครงการและงาน หรือแพลตฟอร์มการแชทและการแบ่งปันข้อมูล
- สร้างระบบการสื่อสาร : กำหนดระบบการสื่อสารที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็น และประสานงานกันได้อย่างราบรื่น
- กำหนดระเบียบวินัยและการทำงาน : กำหนดระเบียบวินัยและการทำงานที่ชัดเจนเพื่อให้สมาชิกปฏิบัติตามข้อกำหนดและเกณฑ์ที่กำหนดไว้ รวมถึงกำหนดความรับผิดชอบและการตรวจสอบความคืบหน้า
- สร้างวัฒนธรรมการทำงาน : สร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนการทำงานแบบ Virtual Organization โดยสร้างความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างสมาชิก สร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการทำงานร่วมกันผ่านระบบออนไลน์
- การสนับสนุนทางเทคโนโลยี : ให้การสนับสนุนทางเทคโนโลยีที่เพียงพอสำหรับสมาชิกในการทำงานร่วมกัน รวมถึงการแก้ไขปัญหาเทคนิคที่อาจเกิดขึ้นในระบบ Virtual Organization
- การสร้างทีมและการสร้างความไว้วางใจ : ให้ความสำคัญกับการสร้างทีมที่มีความเชี่ยวชาญและความสามารถที่เหมาะสมกับงาน และสร้างความไว้วางใจระหว่างสมาชิกในทีม
การนำ Virtual Organization มาใช้ในธุรกิจสามารถช่วยให้ธุรกิจเติบโตและเป็นไปตามความต้องการของยุคดิจิทัลที่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นและการทำงานร่วมกันข้ามพื้นที่และเวลา ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากขึ้น